เห็ดแครง หรือเห็ดตีนตุ๊กแก ได้รับความนิยมบริโภคกันมากในพื้นที่ภาคใต้ ภาคอีสาน และภาคเหนือ จะให้ผลผลิตมากในช่วงฤดูฝน เห็ดแครงจะชอบขึ้นบนไม้อื่นๆ เช่น ไม้ยูคาลิปตัส ไม้สน ไม้ยางพารา ไม้มะม่วง ฯลฯ ในส่วนของเมนูที่ขึ้นชื่อนั้น ได้แก่ แกงคั่วเห็ดแครงใส่กุ้งหรือหมูย่าง หากเป็นภาคอีสานจะนิยมใส่หอยขม นอกจากนี้ยังมีผัดเห็ดแครงใส่ไข่ ยำเห็ดแครง พล่าเห็ดแครง เป็นต้น
ในปัจจุบันเห็ดแครงถือเป็นเห็ดที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก นับว่าตลาดมีความต้องการสูง เห็ดชนิดนี้ยังไม่ค่อยมีใครนิยมปลูก ทำให้ขาดตลาด สามารถขายในราคาสูงถึง 200-250 บาทต่อกิโลกรัม
ขั้นตอนในการปลูกเห็ดแครง
- สิ่งที่ต้องเตรียม
ขี้เลื่อยไม้ยางพารา หรือไม้เนื้ออ่อน 100 กิโลกรัม
รำละเอียด หรือปลายข้าว 50 กิโลกรัม
ภูไมท์ 2 กิโลกรัม
ดีเกลือ 0.2 กิโลกรัม
น้ำสะอาด 75-80 กิโลกรัม
- ขั้นตอนการเตรียมอาหารเพาะเห็ดแครง
นำขี้เลื่อย รำละเอียด และภูไมท์คลุกเคล้าให้เข้ากัน เติมน้ำสะอาดผสมเกลือเทลงไปคลุก ระวังอย่างให้แฉะเกินไป เอาพอหมาด
ใช้ถุงพลาสติก ขนาด 6.5 x 10 นิ้ว มาบรรจุส่วนผสมที่เตรียมไว้ในปริมาณ 3 ใน 4 ของถุง หรือน้ำหนัก 600 กรัมต่อถุง อัดวัสดุพอแน่น
จากนั้นสวมคอขวดไว้ที่ปากถุง ใช้ยางรัดให้แน่น เจาะรูตรงกลาง เพื่อเชื้อเห็นอยู่ตรงกลางถุง แล้วปิดจุก
นำไปนึ่งในหม้อนึ่ง อุณภูมิอยู่ที่ 100 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 3-4 ชั่วโมง นับจากน้ำเดือด เมื่อครบกำหนดเวลาให้พักจนเย็น
ลำเลียงไปไว้ในห้องเขี่ยเชื้อ แล้วรีบใส่เชื้อ อย่างทิ้งไว้ให้เกิน 24 ชั่วโมง จะทำให้การปนเปื้อนของเชื้อสูง โดยการเขี่ยเชื้อเห็ดควรเขี่ยในห้องที่สะอาดและลมสงบ
นำเชื้อเห็ดที่เพาะมาเคาะให้เมล็ดข้าวฟ่างกระจายก่อน เพื่อสะดวกในการเทหัวเชื้อเห็ดลงถุง
เปิดปากขวดออก จากนั้นลนด้วยเปลวไฟจากตะเกียงแอลกอฮอล์ ดึงจุกประหยัดสำลีที่จุกปากถุง เทหัวเชื้อที่เลี้ยงบนเมล็ดข้าวฟ่างลงไป 20-30 เมล็ด (ผู้เพาะต้องระวังอย่าให้มือถูกเมล็ดข้าวฟ่างเด็ดขาด เพราะจะทำให้ก้อนเชื้อเสีย และจุกสำลีที่จกปากถุง ห้ามวางกับพื้นเด็ดขาด)
เมื่อเขี่ยหัวเชื้อลงในถุงแล้ว ควรนำไปเก็บในโรงเรือนสำหรับบ่มเชื้อทันที และภายในโรงเรือนบ่มเชื้อต้องสะอาด และต้องมืด
- วิธีการทำให้เห็ดแครงเกิดผลผลิต
เมื่อเชื้อเห็ดเจริญเต็มก้อนแล้ว ต่อมาให้เอามีดกรีดถุง จากนั้นถอดคอขวดพลาสติกพร้อมกับจุกประหยัดสำลีออก รวบปากถุงใช้ยางรัดให้แน่น และใช้มีดคมๆ กรีดข้างถุงให้เป็นแนวยาว 4 แถว โดยกรีดในลักษณะเฉียง
จากนั้นนำไปวางบนชั้น โดยให้แต่ละถุงห่างกัน 5-7 เซนติเมตร หรืออีกวิธีคือวางก้อนเชื้อแบบแขวน โดยตัวที่จะใช้แขวนนั้น คือเชือก 4 เส้น และแป้นพลาสติก 3-4 แป้น ซึ่งทำได้โดยนำเชือกร้อยเข้ารูแต่ละแป้นติดกันเป็น 1 ชุด แต่ละชุดแขวนก้อนเห็ดได้ 10 ก้อน
เมื่อเปิดถุงแล้วควรรักษาก้อนเชื้อให้ดี ต้องระมัดระวังเรื่องความสะอาด ในเรื่องของการรดน้ำ ไม่ควรรดน้ำกับก้อนเชื้อโดยตรง แต่ให้รดบริเวณภายในโรงเรือน เพื่อให้ความชื้นกับก้อนเชื้อ ควรทำอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง
ผลผลิตรุ่นแรก จะใช้เวลาประมาณ 5 วัน ควรเก็บผลผลิตในระยะที่มีดอกสีขาวนวล ก่อนที่จะสร้างสปอร์ มิฉะนั้นสีจะคล้ำออกสีน้ำตาล ดูไม่น่ารับประทานและเนื้อดอกจะเหนียวขึ้นด้วย