แนวข้อสอบความรู้เกี่ยวกับสินเชื่อ / บัญชีเบื้องต้น
1. สินเชื่อที่มีอายุ 3 ปี คือ
ก. สินเชื่อระยะสั้น ข. สินเชื่อระยะกลาง
ค. สินเชื่อระยะยาว ง. สินเชื่อที่กำหนดระยะเวลา
ตอบข้อ ข. สินเชื่อระยะกลาง คือสินเชื่อที่มีอายุระหว่าง 1-5 ปี เช่นการผ่อนส่ง การซื้อสินค้า เป็นต้น
2. สินเชื่อบัตรเครดิต เป็นสินเชื่อประเภทใด
ก. สินเชื่อระยะสั้น ข. สินเชื่อระยะกลาง
ค. สินเชื่อระยะยาว ง. สินเชื่อที่กำหนดระยะเวลา
ตอบข้อ ก .สินเชื่อระยะสั้น คือ สินเชื่อที่มีอายุไม่เกิน 1 ปี เช่นสินเชื่อเครดิต สินเชื่อการค้า เป็นต้น
3. ข้อใด มิใช่ องค์ประกอบของสินเชื่อ
ก. ความเชื่อใจ ข. ความเที่ยง
ค. เวลาในอนาคต ง. การเปลี่ยนแปลงทางการเมือง
ตอบข้อ ง. สินเชื่อประกอบด้วยองค์ประกอบที่สำคัญ 4 ประการ ดังคือ
1. ความเชื่อใจ 2. การเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ 3. ความเที่ยง 4. เวลาในอนาคต
4. สินทรัพย์ที่สามารถเปลี่ยนเป็นเงินสดได้อย่างรวดเร็ว มีเงินหมุนเวียนในกิจการอย่างไม่ขาดมือ เพียงพอที่จะจับจ่ายใช้สอยประจำวัน และมีเงินพอที่จะจ่ายให้กับเจ้าหนี้ทันทีทันใดเรียกว่า
ก. สินเชื่อ ข. สภาพคล่อง
ค. เครดิต ง. การพาณิชย์
ตอบข้อ ข. สภาพคล่อง หมายถึง สินทรัพย์ที่สามารถเปลี่ยนเป็นเงินสดได้อย่างรวดเร็ว มีเงินหมุนเวียนในกิจการอย่างไม่ขาดมือ เพียงพอที่จะจับจ่ายใช้สอยประจำวัน และมีเงินพอที่จะจ่ายให้กับเจ้าหนี้ทันทีทันใด
5. กระบวนการทางด้านสินเชื่อมีกี่ขั้นตอน
ก. 2 ขั้นตอน ข. 3 ขั้นตอน
ค. 4 ขั้นตอน ง. 5 ขั้นตอน
ตอบข้อ ข. กระบวนการทางด้านสินเชื่อมี 3 ขั้นตอน ดังนี้คือ
1. Credit Transaction การเกิดรายการสินเชื่อ
2. Credit Standing สถานะทางสินเชื่อ
3. Credit Instruments การใช้เครื่องมือประกอบด้วยการด้านสินเชื่อ
7. จากเหตุการณ์ต่อไปนี้ให้เรียงลำดับก่อนหลังของขั้นตอนในกระบวนการของการบัญชี
1. จัดทำงบทดลอง
2. จากเอกสารทางการค้านำมาวิเคราะห์รายการค้าและบันทึกลงในสมุดรายการขั้นต้น
3. จัดทำงบการเงิน
4. ผ่านรายการไปบันทึกในบัญชีแยกประเภท
ก. 2 , 3 , 4 ,1 ข. 2 , 1 , 4 ,3
ค. 1 , 2 , 4 ,3 ง. 2 , 4 , 1 ,3
ตอบข้อ ง.วงจรบัญชี ( Accounting Cycle) หมายถึง กระบวนการทางบัญชี ซึ่งเริ่มตั้งแต่การวิเคราะห์รายการค้าจากเอกสารหลักฐานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจ และบันทึกลงในสมุดรายการขั้นต้นแล้วผ่านรายการบัญชีไปยังสมุดบัญชีแยกประเภทต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง สรุปหายอดคงเหลือเพื่อจัดทำงบทดลองและงบการเงินเพื่อเสนอต่อผู้ใช้งบการเงิน
8. ท่านสามารถทราบข้อมูลจำนวนเงินของกำไรของกิจการสำหรับระยะเวลาหนึ่งๆจากที่ไหน
ก. รายงานการผลิตเกี่ยวกับจำนวนที่ผลิต
ข. รายงานผู้ตรวจสอบบัญชี
ค. งบกำไรขาดทุน
ง. กรมสรรพากร
ตอบข้อ ค. งบกำไรขาดทุน ( Income Statement ) เป็นรายงานทางการเงินที่แสดงให้เห็นถึงผลการดำเนินงานของกิจการในรอบระยะเวลาบัญชีที่กำหนดวางแผนไว้ โดยจะแสดงรายละเอียดเป็นการเปรียบเทียบระหว่างรายได้กับค่าใช้จ่ายต่างๆที่เกิดขึ้นในงวดบัญชีนั้น และสรุปออกมาเป็นผลกำไรหรือขาดทุนของกิจการ
9. กำไรสะสม หมายถึง
ก. กำไรในอดีตทั้งหมดที่คงสะสมไว้ในธุรกิจ
ข. ความเติบโตในอนาคตของธุรกิจ
ค. เงินที่เจ้าของนำมาลงทุนในธุรกิจทั้งหมด
ง. จำนวนเงินที่สะสมไว้จ่ายเจ้าหนี้
ตอบข้อ ก. กำไรสะสม ( Retained Earning) หมายถึง กำไรของกิจการที่เกิดขึ้นในงวดก่อนและงวดปัจจุบันที่คงเหลือหลังการจัดสรร
10. ข้อใด มิใช่ สถาบันที่เกี่ยวข้องกับวิชาชีพการบัญชี
ก. ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ข. กรมสรรพาสามิต
ค. ธนาคารแห่งประเทศไทย ง. สภาวิชาชีพบัญชี
ตอบข้อ ข. สถาบันที่เกี่ยวข้องกับวิชาชีพบัญชี ได้แก่ สภาวิชาชีพบัญชี ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ธนาคารแห่งประเทศไทย กรมสรรพากร กรมบัญชีกลาง เป็นต้น
11. ใครที่นำแม่บทการบัญชีมาเป็นแนวทางในการกำหนดมาตรฐานการบัญชี
ก. คณะกรรมการมาตรฐานการบัญชี ข. ผู้จัดทำงบการเงิน
ค. ผู้สอบบัญชี ง. ผู้ใช้งบการเงิน
ตอบข้อ ก. คณะกรรมการมาตรฐานการบัญชี จะใช้แม่บทการบัญชีมาเป็นแนวทางในการกำหนดหรือปรับปรุงมาตรฐานการบัญชีให้สอดคล้องกัน
12. หากการได้รับใบอนุญาตผู้ประกอบวิชาชีพบัญชี ต้องติดต่อหน่วยงานใด
ก. สภาวิชาชีพบัญชี ข. กรมบัญชีกลาง
ค. ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ง. กรมสรรพากร
ตอบข้อ ก. สภาวิชาชีพบัญชี ถูกจักตั้งขึ้นมาเพื่อส่งเสริมและพัฒนาวิชาชีพบัญชี มีอำนาจหน้าที่ในการส่งเสริมการศึกษาอบรม / วิจัยเกี่ยวกับวิชาชีพ กำหนดมาตรฐานที่เกี่ยวข้องกับวิชาชีพบัญชีขึ้นทะเบียนและออกใบอนุญาตผู้ประกอบวิชาชีพ ควบคุมการประพฤตและดำเนินงานของสมาชิกผู้ขึ้นทะเบียนประกอบวิชาชีพ เป็นต้น
13. หน่วยงานใดมีหน้าที่ควบคุมดูแลสถาบันการเงินต่างๆ
ก. กรมบัญชีกลาง ข. กระทรวงการคลัง
ค. ธนาคารแห่งประเทศไทย ง. ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ตอบข้อ ค. ธนาคารแห่งประเทศไทย เป็นหน่วยงานที่มีหน้าที่ควบคุมดูแลสถาบันการเงิน กำหนดนโยบายการเงินต่างๆของประเทศ
14. แม่บทการบัญชีมีประโยชน์ต่อผู้ใช้งบการเงินอย่างไร
ก. ทำให้ทราบข้อมูล แนวทางในการกำหนดมาตรฐานของคณะกรรมการมาตรฐานการบัญชี
ข. สามารถเข้าใจความหมายที่แสดงในงบการเงินที่จัดทำขึ้นได้
ค. ใช้เป็นแนวทางในการแสดงความเห็นต่องบการเงินว่าตรงตามมาตรฐานการบัญชีหรือไม่
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบข้อ ข. ผู้ใช้งบการเงิน จะใช้แม่บทการบัญชีทำให้สามารถเข้าใจความหมายที่แสดงในงบการเงินที่จัดทำขึ้นตามมาตรฐานการบัญชีได้
15. ข้อใด เป็นประโยชน์ของข้อมูลทางการบัญชี
ก. ช่วยในการตรวจสอบ ข. ป้องกันข้อผิดพลาด
ค. ให้ข้อมูลเพื่อช่วยในการตัดสินใจ ง. ถูกทุกข้อ
ตอบข้อ ง. การบัญชีช่วยสื่อสารความเป็นไปของธุรกิจ ให้ทั้งผู้ใช้ภายในและภายนอกองค์กรทราบ ทั้งยังช่วยตรวจสอบ ป้องกันข้อผิดพลาด และให้ข้อมูลเพื่อการตัดสินใจได้
16. ส่วนของเจ้าของ ได้มาจากอะไร
ก. สินทรัพย์ทั้งหมด หักด้วย หนี้สินทั้งหมด ข. รายได้ หักด้วย รายจ่าย
ค. รายได้ หักด้วย หนี้สิน ง. สินทรัพย์ หักด้วย รายจ่าย
ตอบข้อ ก. ส่วนของเจ้าของ คือ สิทธิของผู้เป็นเจ้าของที่มีต่อกิจการ คำนวณจากการนำสินทรัพย์ทั้งหมด หักด้วย หนี้สินทั้งหมด
17. ข้อใด มิใช่ องค์ประกอบของงบการเงิน
ก. รายได้ ข. ค่าใช้จ่าย
ค. งบดุล ง. สินทรัพย์
ตอบข้อ ค. องค์ประกอบของงบการเงิน ได้แก่ สินทรัพย์ หนี้สิน ส่วนของเจ้าของ รายได้ และค่าใช้จ่าย
18. ข้อใดต่อไปนี้ ไม่ใช่ สินทรัพย์
ก. เงินเดือน ข. ลิขสิทธิ์
ค. สินค้า ง. ลูกหนี้
ตอบข้อ ก. สินทรัพย์ เป็นทรัพยากรที่มีค่าที่อยู่ในความควบคุมของกิจการ ซึ่งกิจการคาดว่าจำได้รับประโยชน์เชิงเศรษฐกิจจากทรัพยากรนั้นในอนาคต เช่น เงินสด ลูกหนี้ สินค้า รถยนต์ สิทธิทางการค้า ลิขสิทธิ์ สัมปทาน เป็นต้น
19. หนี้สิน หมายถึง
ก. หุ้นกู้ ข. เงินกู้
ค. ค่าใช้จ่ายค้างจ่าย ง. ถูกทุกข้อ
ตอบข้อ ง. หนี้สิน คือ สิทธิของเจ้าหนี้ที่มีต่อกิจการซึ่งถือเป็นภาระให้เสร็จสิ้นในอนาคต อาจจะโดยการส่งมอบทรัพย์สิน หรือให้บริการ เช่น เจ้าหนี้การค้า ค่าใช้จ่ายค้างชำระ เงินกู้ หุ้นกู้ เป็นต้น
20. ส่วนได้เสียของเจ้าของในสินทรัพย์ของบริษัทหนึ่งๆคือ
ก. สินทรัพย์ถาวร ข. ส่วนของผู้ถือหุ้น
ค. ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน ง. ทุนหุ้นสามัญ
ตอบข้อ ข. ส่วนของผู้ถือหุ้น ประกอบด้วย ทุนเรือนหุ้น ส่วนเกินหรือส่วนต่ำกว่ามูลค่าหุ้น กำไรสะสม
21. สมการบัญชี คือข้อใด
ก. สินทรัพย์ + หนี้สิน = ส่วนของเจ้าของ ข. สินทรัพย์ = หนี้สิน + ส่วนของเจ้าของ
ค. สินทรัพย์ = หนี้สิน -ส่วนของเจ้าของ ง. สินทรัพย์ + ส่วนของเจ้าของ = หนี้สิน
ตอบข้อ ข . สมการบัญชี คือ สินทรัพย์ = หนี้สิน + ส่วนของเจ้าของ